ถั่วลิสง ธัญพืชที่หาซื้อกินง่าย ประโยชน์จัดเต็ม

ถั่วลิสง ธัญพืชที่หาซื้อกินง่าย ประโยชน์จัดเต็ม

ถ้าพูดถึงธัญพืชที่สามารถหาซื้อได้ง่าย โดยเฉพาะตามตลาดนัดคนเดิน ถั่วลิสงคงจะเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง แน่นอนว่าถั่วชนิดนี้ไม่ได้มีดีแค่ที่รสชาติ หรือสามารถกินได้เพลินๆ เท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณทางด้านสุขภาพและให้ประโยชน์ที่หลากหลายอีกด้วย เอาเป็นว่าตามมาดูประโยชน์ต่างๆ ที่ได้จากการกินถั่วลิสงกันเลยดีกว่าค่ะ

ถั่วลิสง

ถั่วลิสง หรือในชื่อสามัญเรียกว่า Peanut, Earthnut, Goober, Groundnut, Monkeynut, Pindar มีถิ่นดั้งเดิมอยู่ในเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้ ตั้งแต่ลุ่มน้ำอเมซอนไปจนถึงประเทศบราซิล และโดยทั่วไปถั่วลิสงในสกุล Arachis จะแบ่งออกเป็น 19 ชนิด ส่วนสายพันธุ์ที่นำมาปลูกจะมีเพียงสายพันธุ์เดียวนั่นก็คือ Hypogaea ส่วนสายพันธุ์ที่เหลือจะเป็นสายพันธุ์ป่า ทั้งนี้ในประเทศไทยจะมีการปลูกถั่วลิสงอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย แต่จะมีการปลูกมากในทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งการปลูกในประเทศไทยยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนในประเทศ จึงมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย

คุณประโยชน์และสรรพคุณของถั่วลิสง

ในส่วนของคุณประโยชน์และสรรพคุณของถั่วลิสงนั้นมีมากมายดังนี้

1.บำรุงร่างกายและช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย

2.บำรุงสมองและประสาทตา เสริมสร้างความจำพร้อมทั้งช่วยควบคุมความจำได้ดี

3.ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และช่วยให้ผิวกายอบอุ่น

4.ช่วยลดความดันโลหิตสูง โดยใช้ถั่วลิสงแห้งมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม

5.ช่วยทำให้เส้นเลือดที่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็งตีบลง เนื่องจากถั่วลิสงมีสารต้านเอนไซม์โปรติเอส ซึ่งเป็นสารที่ช่วยต้านมะเร็ง และมีสารจีเนสเตอิน ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยรักษาอาการดังกล่าวได้ดี

6.ป้องกันโรคหัวใจ เพราะถั่วลิสงมีสารที่ช่วยลดปริมาณของไขมันชนิดไม่ดี หรือ LDL ดังนั้นจึงช่วยลดความเสี่ยงของภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือดและภาวะหลอดเลือดแข็งตัว ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจ

7.ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันที่มีคุณสมบัติทำให้อิ่มท้องนาน

8.รักษาโรคเกล็ดเลือดต่ำ

9.บำรุงไขมันในร่างกาย

10.ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน อีกทั้งยังจัดเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวานอีกด้วย เพราะมีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลิน

11.บำรุงปอด ช่วยหล่อลื่นปอด และรักษาอาการไอแห้งเรื้อรังได้ดี

12.รักษาเยื่อตาอักเสบอย่างเฉียบพลัน ซึ่งเป็นชนิดที่ติดต่อได้

13.แก้อาการไอเรื้อรังและอาการคลื่นไส้ได้

14.รักษาอาการไอกรน และอาการนอนกรนในเด็ก

15.รักษาอาการนอนละเมอผิดปกติ

16.ระบายท้องได้ดี

17.บำรุงกระเพาะและช่วยในกระบวนการทำความสะอาดร่างกายแบบธรรมชาติ เนื่องจากมีเส้นใยอาหารที่สามารถละลายน้ำได้

18.ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารได้ดี

19.รักษาโรคบิดแบคทีเรียอย่างเฉียบพลัน

20.รักษาพยาธิไส้เดือนที่อุดตันในลำไส้

21.รักษาโรคตับอักเสบหรือเป็นดีซ่านอย่างเฉียบพลัน

22.มีความสามารถห้ามเลือด และช่วยรักษาอาการเลือดออกง่ายในโรคฮีโมฟีเลีย

23.แก้อากาเหน็บชาที่ปลายเท้า

24.บำรุงไขข้อและเส้นเอ็น

25.บำรุงน้ำนมสำหรับคุณแม่หลังคลอด

คุณค่าทางโภชนาการของถั่วลิสงต่อปริมาณ 100 กรัม

ในปริมาณของถั่วลิสง 100 กรัม ให้สารอาหารที่หลากหลายแตกต่างกันดังนี้

พลังงาน 570 กิโลแคลอรี, คาร์โบไฮเดรต 21 กรัม, น้ำ 4.26 กรัม, น้ำตาล 0 กรัม, เส้นใย 9 กรัม, โปรตีน 25 กรัม, วิตามินบี1 0.6 มิลลิกรัม, วิตามินบี3 12.9 มิลลิกรัม, วิตามินบี6 1.8 มิลลิกรัม, วิตามินบี9 246 ไมโครกรัม, วิตามินซี 0 มิลลิกรัม, ไขมัน 48 กรัม, ไขมันอิ่มตัว 7 กรัม, ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 24 กรัม, ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 16 กรัม, ธาตุแคลเซียม 62 มิลลิกรัม, ธาตุเหล็ก 2 มิลลิกรัม, ธาตุแมกนีเซียม 184 มิลลิกรัม, ธาตุฟอสฟอรัส 336 มิลลิกรัม, ธาตุโพแทสเซียม 332 มิลลิกรัม และ ธาตุสังกะสี 3.3 มิลลิกรัม ซึ่งข้อมูลคุณค่าทางโภชนาการของถั่วลิสงดังกล่าวนี้เป็นข้อมูลที่ได้มาจาก USDA Nutrient database

โทษของการกินถั่วลิสง

สำหรับโทษของถั่วลิสงนั้นจะเกิดขึ้นกับบางรายที่มีอาการแพ้หรือเป็นโรคบางชนิด ซึ่งสามารถแบ่งโทษของถั่วลิสงได้ดังนี้

1.เนื่องจากถั่วลิสงเป็นอาหารที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่มักตรวจพบสารพิษที่เกิดจากเชื้อราที่เรียกว่า สารอะฟลาทอกซิน ซึ่งเป็นสารพิษที่มีความร้ายแรงต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง หากร่างกายได้รับสารพิษชนิดนี้ในปริมาณมาก ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นโรคมะเร็งที่ตับ หัวใจ และสมองบวม อีกทั้งยังมีอาการอื่นๆ เช่น ชัก หายใจลำบาก หรือตับถูกทำลาย

2.ในบางรายที่มีอาการแพ้ถั่วลิสงที่ไม่รุนแรง จะมีอาการผื่นคันตามตัว เป็นลมพิษ อาเจียน ไอหอบ หายใจไม่สะดวก และมีอาการปวดท้อง แต่หากมีอาการที่รุนแรงมากอาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตตามมา

3.ในกลุ่มผู้ที่มีอาการของโรคที่เกิดจากความชื้นเย็น หรือร่างกายมักเจ็บป่วยได้ง่ายเมื่ออากาศเย็นหรือมีความชื้น จะทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี มีอาการปวดตามกล้ามเนื้อ ปวดตึงตามข้อต่อ และท้องเสีย

4.ในผู้ป่วยโรคเกาต์ควรกินถั่วลิสงในปริมาณที่จำกัด เนื่องจากมีสารพิวรีนในระดับปานกลาง ซึ่งสารชนิดนี้อาจเป็นตัวกระตุ้นทำให้อาการของข้ออักเสบกำเริบขึ้นมาได้

จะเห็นได้ว่าถั่วลิสงคือธัญพืชที่จัดเต็มทั้งในด้านของคุณประโยชน์และสรรพคุณด้านสุขภาพ และให้คุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ในขณะเดียวกันก็ให้โทษแก่ร่างกายด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงควรศึกษาให้ดีก่อนกินถั่วชนิดนี้ และตรวจสอบอย่างละเอียดว่าตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการกินถั่วลิสงหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายนั่นเอง